Friday, May 14, 2021

อ่อนรวยรินดุจสายน้ำ

เมื่อครั้งที่ สุมาอี้ เป็นแม่ทัพใหญ่ต้านทานการบุกจากขงเบ้ง แล้วอยู่ๆส่วนกลางก็แต่งตั้งโจจิ๋น (เด็กเส้น)ขึ้นมาเป็น แม่ทัพใหญ่ สุมาอี้ เป็น รองแม่ทัพ

หากแต่ลูกน้องของสุมาอี้ล้วนแต่มาพูดให้กำลังใจสุมาอี้ และบอกว่า สุมาอี้ยังอยู่ในใจของผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอๆ

วันที่โจจิ๋น แม่ทัพคนใหม่มาที่ค่ายทัพมารับตำแหน่ง วางท่าทีเบ่งกล้ามมาเลย พูดเยอะเย้ยถากถางสุมาอี้ต่างๆ

อ่อนรวยรินดุจสายน้ำ

สุมาอี้ จากแม่ทัพกลายเป็นรองแม่ทัพ ก็ไม่ตอบโต้อะไร หากแต่เขาให้ความร่วมมือต่อหัวหน้าคนใหม่เป็นอย่างดี

การรบกับขงเบ้งดำเนินไปได้ด้วยดี อยู่ๆฝ่ายขงเบ้งก็มีท่าทีว่า รบแพ้และถอยทัพกลับ

โจจิ๋นผู้นำคนใหม่ก็ดีใจเป็นอันมาก พูดจาต่างๆว่า"เห็นมั้ย ผมมาเป็นแม่ทัพ ขงเบ้งบุกไม่ได้เลยถึงขั้นถอย มีใครทำแบบผมได้บ้างค้าบบ ฮ่าๆ" สุมาอี้ก็แสดงความยินดีด้วย กล่าวชมสรรเสริญต่างๆ

ว่าแล้วโจจิ๋น หัวหน้าคนใหม่จึงให้ สุมาอี้รองแม่ทัพเขียนจดหมายไปแจ้งข่าวยังเมืองหลวง ถึงความสามารถของโจิจิ๋นที่สามารถทำให้ขงเบ้งถอยทัพไปได้ ประเด็นนี้ น่าสนใจ

น่าสนใจ 1 เป็นการถากถางถึงสุมาอี้ที่ไร้ความสามารถที่ไม่อาจทำให้ขงเบ้งถอยทัพไปได้

น่าสนใจ 2 เป็นการโชว์ภูมิของโจจิ๋นหัวหน้าคนใหม่ โดยจงใจจะกดขี่ รองหัวหน้า

น่าสนใจ 3 อ่อนรวยรินดุจ สายน้ำ สุมาอี้ที่เป็นรองหัวหน้าก็ทำตาม ให้ความร่วมมือเขียนจดหมายตามที่หัวหน้าสั่งการ

ที่เมืองหลวงได้รับข่าวที่ว่า ขงเบ้งมีทีท่าว่าจะแพ้และถอยทัพกลับไป ก็ดีใจ ตบรางวัลให้โจจิ๋นอย่างมากมาย

สุมาอี้และโจจิ๋น จึงหารือกันต้านทาน หากว่าขงเบ้งจะบุกมาอีกรอบ ต่างฝ่ายต่างมีจุดยืน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน

สุมาอี้เมื่อเตือนโจจิ๋นแล้วไม่ฟังเองนะ ยังจะดื้อต่อ เมื่อความเห็นต่างกัน สุดท้ายจึงต้อง แยกการตั้งค่ายทัพโจจิ๋น อยู่ค่ายทัพอยู่ที่เดิม สุมาอี้ไปตั้งค่ายทัพ ณ ที่แห่งใหม่

จนวันนึง ฝนเริ่มตก และตกหนักขึ้นๆเรื่อยๆ ค่ายทัพที่โจจิ๋นตั้งอยู่ น้ำเริ่มท่วม ทหารได้รับความลำบากเป็นอย่างยิ่ง

โจซองเฉลียวใจได้จึงรีบมาเตือนพ่อ "พ่อครับ ฝนตกที่ค่ายทัพเรา น้ำเริ่มท่วม ถ้าขงเบ้งบุกมา เราจะงานเข้านะครับ"

"ฮึ่ย อย่ากังวลไปเลย ฝนตกหนักแบบนี้ ขงเบ้งก็เดินทัพลำบากเหมือนกันแหละน่า"โจจิ๋นเอ่ยกลับไป

จนวันนึง สายข่าวมารายงานโจจิ๋นว่า ขงเบ้งให้อุยเอี๋ยนเป็นทัพหน้า แต่งตัวชุดกันฝน บุกฝ่าตะลุยเข้ามาอย่างรวดเร็ว

โจจิ๋น เห็นไม่ทันการจึงสั่งตั้งรับเป็นการด่วน หากแต่ในค่ายทัพของตนนั้น

-น้ำท่วม

-ธนู ยิงไม่ได้ คันธนูชื้น ง้างยิงแล้หัก หัวธนูก็ชื้นเป็นสนิม

-หากดาบเป็นสนิม ใช้การไม่ได้

-เสื้อเกราะ ชื้น เปื่อยยุ่ยเป็นเชื้อรา

ฝั่งขงเบ้งจึงถล่มค่ายทัพของโจจิ๋นยับ แล้วสุมาอี้ไปไหน? หึหึ ที่ขงเบ้งถอยทัพไป มีหรือสุมาอี้จะไม่รู้ 

พิชัยยุทธ์ซุนวู บทการประเมินสถานการณ์

1.มรรค

2.ฟ้า (ลมฟ้าอากาศ) ปลายฤดูนี้จะมีพายุใหญ่เข้ามา ฝนตกหนัก 30กว่าวันติดๆกัน ย่อมทำให้อาวุธมีความชื้น ใช้การไม่ได้

3.ดิน(ภูมิประเทศ)  ค่ายทัพของโจจิ๋น ตั้งอยู่ในที่ต่ำ เมื่อฝนตกย่อมเป็นแอ่งกระทะ รองรับน้ำได้อย่างดี

4.ผู้นำ

5.การบริหารจัดหาร

ด้วยเหตุนี้ที่โจจิ๋น

-ไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ ย่อมไม่รู้จักตนเอง

-ไม่รู้ว่าขงเบ้ง ถอยทัพไปทำไม ย่อมไม่รู้เขา

ที่ขงเบ้งถอยทัพไป นั่นเป็นเพราะ ฟ้าดินยังไม่เป็นใจ หากว่าฝืนเข้าตีฝ่ายตนย่อมเสียหายหนัก ,จึงถอยไปตั้งหลักก่อน เมื่อปัจจัยตนเหนือกว่าคู่แข่งจึงค่อยยกทัพมาถล่มอีกที ได้รับชัยชนะอย่างงดงาม

ด้วยเหตุนี้ โจจิ๋นจึงพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่า ถึงขั้นตรอมใจตาย

บทสรุป

1.อ่อนรวยรินดุจสายน้ำ ไหลตามสถานการณ์แบบสุมาอี้เป็นเรื่องที่ดี แม้ว่าเขาจะไม่พอใจที่โดนเด็กเส้นมาปาดหน้า แต่เขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

2.การรู้เรา(รู้จักตนเอง)เป็นสิ่งที่จำเป็น บางคนจะเอาแต่ รู้ผู้อื่น(ทำยังไงก็รู้ได้ไม่หมด) อาจพบจุดจบเช่นโจจิ๋น

3.สติปัญญา และความรู้เป็นของราคาแพงเสมอ และถ้าไม่รู้ อาจมีราคาที่ต้องจ่ายแบบโจจิ๋น

เกร็ดความรู้

ทัพหน้า,กองหน้า มักจะคัดจากผู้ที่มีฝีมือล้ำเลิศ

1000 คัดเหลือ100

100    คัดเหลือ 10

เปรียบดั่ง หัวตะปูที่ต้องแข็งแกร่งและแหลมคม พร้อมที่จะตอกไปยังที่หมาย ,ถ้าตะปูทู่ๆก็คงตอกไม่ได้ เมื่อก่อนจะมี กองหน้า,กองกลาง,ปีกซ้าย,ปีกขวา,กองหนุน มักจะใช้กองหน้าไปตอกก่อน หากว่าได้ชัยชนะ ขวัญกำลังใจมาเต็มแล้วกองกลาง,กองหนุนค่อยถล่มอีกที หรือว่า กองหนุน-กองหน้า จะสลับทัพ พลิกแพลงไปๆมาๆตลอดเวลา


Credit : Karoon Smile

No comments:

Post a Comment