ความรู้ คือ ความสามารถสะสมข้อเท็จจริง หากแต่ ปัญญา คือ ความสามารถในการเล็งเห็นว่าอะไรสำคัญ ไม่สำคัญ ฉะนั้นต่อให้มีความรู้ท่วมหัว ก็อาจจะเอาตัวไม่รอด + วิชา แยก(ย.) : แยกแยะ..เรื่องสำคัญ/พลิกแพลงกับคิดเองเออเอง มีเส้นบางๆกั้นอยู่ + Key terrain ,ยุทธภูมิยื้อแย่ง
ลกซุนและม้าเจ๊ก มีหลายๆอย่างที่เหมือนๆกันแต่ทำไมทั้งคู่พอลงสู่"หน้างานจริง" ผลลัพธ์กับแตกต่างกัน ประเด็นนี้น่าสนใจ น่าสนใจ
1: ม้าเจ๊ก และ ลกซุนเป็นบัณฑิตผู้รอบรู้เชี่ยวชาญพิชัยสงคราม น่าสนใจ
2 : ม้าเจ๊ก และ ลกซุน ต่างได้รับการสนับสนุนจากเจ้านาย / ม้าเจ๊กเด็กปั้นขงเบ้ง ,ลกซุนเด็กปั้นซุนกวน ตอน ลกซุน ;วิชา ย่อ(ย.) เงียบให้ถูกจังหวะคนชนะไม่พูดมาก / พูดให้ฟังดังแค่หู ทำให้ดูรู้ถึงใจ
ตามลิ้งค์ครับ https://suaraampera1785.blogspot.com/2021/04/blog-post.html
เมื่อขงเบ้งเป็นแม่ทัพใหญ่ ยกทัพขึ้นเหนือเข้าสู่จงหยวน หมายรวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง แต่มีปัญหาเรื่องการลำเลียงเสบียงอาหารเนื่องจาก การลำเลียงเสบียงอาหารต้องผ่านภูเขา ขงเบ้งหมายที่จะใช้ตำบลเกเต๋ง เป็นจุดส่งกำลังบำรุงกองทัพ หากว่า ต้องการจะบุกไปต่อเพื่อรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง แต่สุมาอี้ก็รู้และต้องการช่วงชิงจุดนี้เช่นกัน ม้าเจ๊กจึงขออาสารับภารกิจ ตั้งรับการบุกจากสุมาอี้เอง แล้วม้าเจ๊กเป็นใคร? ม้าเจ๊กเป็นเด็กปั้นของขงเบ้ง,ที่ปรึกษาของขงเบ้ง ,ขงเบ้งมักจะหารือการศึก/ปรึกษาข้อราชการกับม้าเจ๊กบ่อยๆเสมอ
-ไอเดียดีๆทั้ง ปล่อยข่าวให้อีกฝ่ายปลดฝั่งตรงข้ามอย่างสุมาอี้ ก็ได้จากม้าเจ๊ก -ไอเดียดีๆอย่าง รักษาใจผู้คนชาวใต้ จับเจ็ดครั้ง ปล่อยตัวเจ็ดครั้ง ที่ทำให้ เบ้งเฮ็ก หัวหน้าเผ่าม่าน ยอมสยบด้วยใจต่อจ๊กก๊ก ก็ได้จากม้าเจ๊ก
ทำไมภารกิจการป้องกันตำบลเกเต๋งถึงสำคัญยิ่งนัก? ตำบลเกเต๋ง ขงเบ้งหมายที่ใช้จุดนี้เป็นจุด ส่งกำลัง ทั้งเสบียงอาหาร,ที่รวมพลขั้นต้น เพื่อเข้าตีเมืองฉางอาน(เองจิ๋ว) ต่อไป
-คนต้องกินข้าว ต่อให้เก่งกาจแค่ไหน แต่ถ้าลูกน้องท้องไม่อิ่ม ไฉนเลยจะถามหาความจงรักภักดีจากพวกเขาได้ "กองทัพต้องเดินด้วยท้อง" นโปเลียน โบนาปาร์ต กล่าวไว้ หากแต่วลีนี้ เป็นที่รู้กันดี ในสมัยตั้งแต่จีนโบราณ เพราะมักจะมีการ จู่โจมในจุดนี้(จุดเก็บเสบียงอาหาร)ของฝ่ายตรงข้ามเสมอๆ เรื่อง ปากท้อง คือเรื่องที่สำคัญมาก-มากที่สุด ภาษิตจีนโบราณว่า "ปากท้องอิ่ม ศีลธรรมจึงบังเกิด"
ตำบลเกเต๋ง เรียกได้ว่าคือ key terrain และ ยุทธภูมิยื้อแย่ง
พิชัยยุทธ์ซุนวูว่าไว้ "ยุทธภูมิยื้อแย่ง" นี่เป็นชัยภูมิสำคัญดุจคอหอย ใครได้ไว้จักชนะจึงต้องยื้อแย่ง คัมภีร์"เมิ่งเต๋อเซินซู" : ยุทธภูมิยื้อแย่ง ฝ่ายเราได้ไปก็เป็นคุณ ฝ่ายตรงข้ามได้ไปก็เป็นคุณจึงเป็นที่ยื้อแย่ง ,ฝ่ายใดก็ตามถ้ายึดพื้นที่นี้ได้ จะสามารถใช้คนน้อยตีคนมาก ใช้อ่อนตีแข็งได้
ดังนั้นถ้าข้าศึกยึดไว้แล้ว ท่านจงอย่าไปฝืนตี ปัจจัย OCOKA (K :key terrain ) : ภูมิประเทศสำคัญ ต้องยึดให้ได้ เพราะอาจเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของการยุทธได้,ฝ่ายไหนครอบครองจะได้เปรียบมาก-มากที่สุด อาทิเช่น การส่งกำลัง,การตรวจการณ์และพื้นที่การยิง,สิ่งกีดขวางป้องกันข้าศึก,แนวทางการเคลื่อนที่ของฝ่ายเราที่ได้เปรียบต่อฝ่ายตรงข้าม
ตำบลเกเต๋ง คือ ภูมิประเทศที่ต้องยื้อแย่ง รึว่า Key terrain ใครครอบครอง ฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายชนะ ประเด็นนี้น่าสนใจ น่าสนใจ
1 ฝ่ายจ๊กก๊ก(ขงเบ้ง)ใช้ตำบลเกเต๋งเป็นที่สะสมเสบียงไว้ใช้ในการทำศึก ต้องรักษาไว้ให้ได้ มีเคสเดียวเท่านั้นคือ ห้ามเสียจุดนี้ น่าสนใจ
2 หากว่ารักษาตำบลเกเต๋งไม่ได้ ทหารจะขาดเสบียงอหาร อาจจะต้องถึงขั้นถอยทัพกลับเมืองฮันต๋งไปตั้งหลักใหม่ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก-มากที่สุด
ขงเบ้งได้สั่งการชัดเจนว่า ให้ตั้งค่ายทัพ ปิดปากทางเข้าออกทั้งสี่ช่องทาง บริเวณตำบลเกเต๋ง แต่ ม้าเจ๊ก ดันทำนอกแผนที่เจ้านายอย่างขงเบ้งได้สั่งการไว้ โดยยกทัพไปตั้งทัพบนภูเขา เพราะว่า ตนเห็นว่าทำแบบนี้ดีกว่า ! อองเป๋ง รองแม่ทัพ เห็นดังนั้นจึงกล่าวทัดทานว่า "ถ้าฝ่ายตรงข้ามตัดน้ำ,ตัดเสบียง แล้วรอซ้ำยามเปลี้ย มันจะยุ่งนะครับ" แต่ ม้าเจ๊กหาฟังไม่ ม้าเจ๊กโอ่ว่า "ขนาดขงเบ้งยังต้องมาขอคำปรึกษาจากผม คุณไม่รู้ตำราคุณจะไปรู้อะไร" "ผมทำตามตำราพิชัยสงคราม ตั้งค่ายบนที่สูง จะได้บุกลงมาตีข้าศึกได้ง่ายๆ" ม้าเจ๊กบอก อองเป๋งแม้จะไม่รู้หนังสือ แต่ด้วยสัญชาตญาณจากประสบการณ์หน้างานจริง รู้เลยว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง จึงคำรามในใจ "เตือนแล้วไม่ฟังเองนะ แต่ผมจะไม่ยอมลำบากมาตาย เพราะไอ้หมอนี่แน่นอน" เมื่อตกลงกันไม่รู้เรื่องจึงต้องแบ่งทัพ โดยม้าเจ๊กยกทัพไปตั้งบนเขา ส่วนอองเป๋งแยกทัพไปตั้งอีกค่าย
สุดท้าย ฝ่ายสุมาอี้ตีได้ และ ยึด Key terrain นี่ไปได้ /สุมาอี้ยึด Key terrain นี้ยังไง และ ชะตากรรมม้าเจ๊กจะเป็นเช่นไร มีตอนที่2 สำหรับวิชา แยก (ย.) ครับ
ข้อสรุป
1.คำว่าพลิกแพลง และ คิดเองเออเอง มีเส้นบางๆถึงบางมากกั้นอยู่ ต้องแยกแยะให้ดี
2.เรื่องสำคัญ/ไม่สำคัญ ,เร่งด่วน/ไม่เร่งด่วน ก็ต้องใช้ปัญญาแยกแยะให้ดี รึที่เราเรียกกันว่า จัดความสำคัญและเร่งด่วนของงาน
3.แน่นอนว่า ม้าเจ๊ก เป็นผู้รอบรู้ หากแต่ไร้ปัญญา(ณ เวลานั้น) จึงแยกแยะไม่ได้ว่า สิ่งที่ขงเบ้งเตือน สำคัญมาก-มากที่สุด จึงละเลยสิ่งที่ขงเบ้งเตือน ,และไม่ให้ความสำคัญกับการตั้งรับ เพื่อปกป้อง Key terrain (ยุทธภูมิยื้อแย่ง) ,ไม่ให้ความสำคัญกับแผนสำรองหากอีกฝ่ายใช้วิธี "รอซ้ำยามเปลี้ย"
4.Key terrain ,ยุทธภูมิยื้อแย่ง อาจพลิกแพลงได้ในโลกทางการค้าได้ เช่น บริเวณรังสิตเมื่อ 30ปีก่อน เป็นเส้นทางที่รถจะไป อีสาน,เหนือ,นครนายกจะต้องผ่าน เรียกได้ว่า หากตั้งเมืองรึว่ามีห้างสรรพสินค้าตั้งขึ้นมา ค้าขายยังไงก็มีแต่แล่นฉิว ไม่มีวันเจ๊ง อีกอย่างการเคลื่อนที่เข้าเมืองหลวง กทม.ก็สามารถใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็น Key terrain จุดนึงขอ
Credit : Karoon Smile
No comments:
Post a Comment