Saturday, November 16, 2019

เอียวสิ้ว เต๋อจื๋อ (Yang Xiu) - อัจฉริยะผู้สิ้นชีพเพราะอวดรู้


เอียวสิ้ว เต๋อจื๋อ (หยางซิว)
อัจฉริยะผู้สิ้นชีพเพราะอวดรู้

จากจดหมายเหตุชีวประวัติเอียวสิ้ว โดยเฉินโซ่ว
(Biography of Yang Xiu)

เอียวสิ้ว หรือ หยางซิว (Yang Xiu) ชื่อรอง เต๋อจื๋อ (Dezu) เกิดปีค.ศ.175 เป็นชาวหัวอิน เมืองหงหนง มณฑลซ่านซี เอียวสิ้วเป็นบุตรชายของเอียวปิว ขุนนางในราชสำนักฮั่น ปู่คือเอียวซือซึ่งเป็นอดีตขุนนางใหญ่ มารดาของเขายังมีศักดิ์เป็นพี่สาวของอ้วนสุด สถานะของเอียวสิ้วแต่เดิมจึงนับว่าเป็นญาติของขุนนางตระกูลใหญ่ในปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก และสกุลเอียวก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งสกุลขุนนางใหญ่ที่มีความภักดีต่อราชสำนักฮัน่อย่างสูงสุดมานานถึงสี่รุ่น


เอียวสิ้วมีรูปลักษณ์โดดเด่น คิ้วเรียก ตาเล็ก ใบหน้าเกลี้ยงเกลา มีไหวพริบและสติปัญญาเฉลียวฉลาดมาตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อราชสำนักฮั่นโดนตั๋งโต๊ะยึดครอง สกุลเอียวได้หลบหนีออกจากนครหลวงและมาขอพึ่งพิงอ้วนสุด ภายหลังเมื่ออ้วนสุดตั้งตนขึ้นเป็นฮ่องเต้ สกุลเอียวจึงได้ต่อต้านแล้วแยกตัวออกมาอีก จากนั้นเอียวสิ้วจึงได้มารับราชการอยู่กับโจโฉรับราชการอยู่กับโจโฉ โดยทำงานอยู่ในสำนักราชเลขาธิการ อยู่ใต้สังกัดของซุนฮก ต่อมาจึงได้ทำงานในสำนักสมุห์บัญชี

จากนั้น เอียวสิ้วได้คบหาเป็นสหายและที่ปรึกษาให้กับโจสิด บุตรชายคนที่สี่ของโจโฉ ซึ่งโจสิดได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ในด้านการแต่งบทกวี 

เอียวสิ้วเป็นผู้มีความสามารถทั้งด้านการทหารและการเมือง รอบรู้พิชัยสงครามและมีไหวพริบปฏิภาณเป็นเยี่ยม โจโฉจึงมอบหมายให้เอียวสิ้วทำงานเป็นกุนซือในกองทัพและในราชสำนัก เอียวสิ้วเป็นผู้ที่มีความเข้าใจความคิดอ่านของโจโฉมาก ความคิดอ่านของเขามีอิทธิพลต่อการปกครองบ้านเมืองไม่น้อย เนื่องจากเอียวสิ้วมีความสนิทสนมกับโจสิด เขาจึงช่วยเหลือเป็นกุนซือให้คำแนะนำกับโจสิดในการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทกับโจผี 

มีเกร็ดประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องของเอียวสิ้วที่ส่วนมากแล้วจะเป็นเรื่องเล่าที่แสดงถึงความเจ้าปัญญาและรู้ความคิดของโจโฉมากจนเกินไป จึงทำให้โจโฉสะสมความไม่พอใจอยู่ลึกๆ 

ครั้งหนึ่ง มีคนงานของโจโฉได้ตัดสร้างประตูที่สวนขึ้น เมื่อโจโฉมาถึง เขาไม่ได้กล่าวอะไรกับคนงาน เพียงแต่เขียนอักษรที่มีความหมายว่าชีวิตไว้บนประตู ไม่มีใครเข้าใจว่าโจโฉต้องการสื่ออะไร ยกเว้นเอียวสิ้ว เขาได้อธิบายให้คนอื่นฟังว่า ตัวอักษรที่หมายถึงประตูนั้น หากนำตัวอักษรชีวิตใส่เข้าไปในตัวอักษรที่หมายความว่าประตูแล้ว ก็จะได้ความหมายใหม่คือ กว้างโจโฉต้องการบอกใบ้ว่า ประตูนั้นสร้างมากว้างเกินไป คนงานได้ฟังแล้วจึงปรับแก้ขนาดของประตู เมื่อโจโฉทราบว่าเอียวสิ้นเป็นเพียงผู้เดียวที่เข้าใจความหมายของสิ่งที่เขาบอกใบ้ จึงรู้สึกตื่นเต้นกับพรสวรรค์ของเอียวสิ้วมาก

ครั้งหนึ่ง ชนเผ่านอกด่านได้ส่งขนมใส่ในกล่องมอบให้โจโฉเป็นของบรรณาการ โจโฉจึงเขียนอักษรไว้บนกล่องนั้นว่า ขนมกล่องหนึ่งแล้ววางไว้ เมื่อเอียวสิ้วมาเห็น จึงบอกให้คนนำขนมนี้ไปแจกให้คนอื่นๆกินกันคนละชิ้น โจโฉจึงถามเอียวสิ้วว่าเพราะเหตุใดจึงทำเช่นนั้น เอียวสิ้วตอบกลับว่า นายท่านเขียนตัวอักษรที่มีความหมายว่า ขนมสำหรับหนึ่งคนหนึ่งคำ แล้วพวกเราจะขัดคำสั่งนายท่านได้อย่างไรนั่นเพราะคำที่โจโฉเขียนไว้บนกล่องสามารถแยกออกแล้วแปลความหมายได้ตามนั้น โจโฉจึงเริ่มไม่พอใจเอียวสิ้วที่รู้มากเกินไปนับแต่นั้น

เอียวสิ้วได้ช่วยให้คำแนะนำแก่โจสิดในการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทกับโจผี เพราะเดิมทีแล้วโจผีมิใช่บุตรชายคนโต แต่เนื่องจากโจงั่งบุตรคนโตของโจโฉได้เสียชีวิตไปแล้วในศึกที่อ้วนเสีย ทำให้ตำแหน่งทายาทที่จะรับสืบทอดอำนาจยังไม่ได้มีการแต่งตั้งแน่นอน อีกทั้งโจโฉก็แสดงออกชัดเจนว่ามีความชื่นชอบและรักใคร่โจสิดมากกว่า เพราะโจสิดได้แสดงว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ในด้านการแต่งบทกวีมาตั้งแต่วัยเยาว์ แม้ว่าโจผีเองก็มีความชื่นชอบในด้านบทกวีและวรรณกรรมเช่นกัน แต่ก็ยังมิอาจเทียบเคียงกับโจสิดในด้านนี้ได้

โจผีได้กาเซี่ยงและสุมาอี้เป็นผู้ให้คำแนะนำให้การประพฤติตัวให้เหมาะสมกับการชิงตำแหน่งรัชทายาท แต่เอียวสิ้วกลับไม่สามารถแนะนำให้โจสิดประพฤติตัวให้เหมาะสมได้ โจโฉมีความคิดจะตั้งแต่รัชทายาทผู้สืบทอดอำนาจของตนตามความสามารถมากกว่าจะถืออาวุโสตามธรรมเนียมดั้งเดิม แต่ก็ลังเลใจ เพราะแม้ว่าโจสิดจะมีพรสวรรค์ แต่ก็ขาดวินัยในการดื่มสุรา ชอบใช้ชีวิตเสเพล ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ดีพอ 

ปีค.ศ.219 เอียวสิ้วได้อาศัยสายสัมพันธ์กับเครือข่ายขุนนางในนครเย่ สนับสนุนให้โจสิดชิงตำแหน่งจากโจผีมาให้ได้ ระหว่างนั้น โจสิดมีความประพฤติตนไม่ดีนัก ดื่มสุราเมามาย และก่อเรื่องขึ้นที่นครเย่ เขาเดินทางผ่านเข้าประตูที่จัดไว้เฉพาะองค์ฮ่องเต้เท่านั้น แต่ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เอียวสิ้วโดนโจโฉกำจัดก็คือเมื่อโจโฉทราบว่าเอียวสิ้วเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญในการแนะนำให้โจสิดสร้างความประทับใจให้โจโฉเพื่อชิงตำแหน่งรัชทายาท อีกทั้งโจโฉรำลึกได้ว่าเอียวสิ้วมีสายสัมพันธ์เป็นบุตรของพี่สาวอ้วนสุด ดังนั้นจึงหาเหตุจับผิดเอียวสิ้วเพื่อสั่งประหารชีวิตในที่สุด

หลังจากประหารเอียวสิ้วแล้ว โจโฉได้ส่งสารแสดงความเสียใจไปถึงเอียวปิวผู้เป็นบิดาซึ่งเวลานั้นได้ลาออกจากราชการแล้ว แต่เอียวปิวก็ไม่ยอมรับความสงสารนั้นแล้วไม่ได้แสดงความโศกเศร้าออกมาแต่อย่างใด

อธิบายเสริม
            มีการวิเคราะห์หาสาเหตุความตายของเอียวสิ้วไว้หลายแง่มุมว่า บางทีเหตุที่เอียวสิ้วโดนประหารชีวิตนั้น แท้จริงแล้วอาจเป็นเรื่องที่ หลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งสาเหตุแท้จริงอาจจะไม่ใช่เพราะเรื่องความที่เขาเป็นคนรู้มาก หรือแสดงความโอ้อวดว่าตนล่วงรู้ความคิดของโจโฉมากเกินไปแล้วทำให้โจโฉชิงชังเท่านั้น แต่สาเหตุหลักอาจเป็นเรื่องอื่นที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า ซึ่งหากวิเคราะห์ในทางประวัติศาสตร์แล้ว เรื่องราวการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทระหว่างโจผีและโจสิดอาจเป็นชนวนเป็นหลักของเรื่องนี้ แล้วเอียวสิ้วก็กลายเป็นเพียงตัวหมากหนึ่งในนั้น แล้วอีกสาเหตุก็อาจเป็นเพราะความเป็นมาของตัวเอียวสิ้วเองในฐานะที่เขาเป็นญาติสนิทใกล้ชิดกับอ้วนสุดมาก่อน

            ในบรรดาทายาทคนสำคัญของโจโฉ ผู้ที่คิดแย่งชิงตำแหน่งทายาทกับโจผีมีเพียงแค่โจสิดเท่านั้น แล้วในจดหมายเหตุบทชีวประวัติของโจสิดก็มีบันทึกว่า โจโฉเกรงว่าหากตนสิ้นชีพแล้วจะบังเกิดความเปลี่ยงแปลงครั้งใหญ่ เอียวสิ้วนั้นมีสติปัญญาและเล่ห์เหลี่ยมกลอุบายมาก แล้วยังมีศักดิ์เป็นบุตรชายของพี่สาวอ้วนสุด หากปล่อยไว้จะเป็นภัย จึงสั่งประหารชีวิต

ทำไมการเป็นญาติกับอ้วนสุดจึงทำให้เอียวสิ้วต้องสิ้นชื่อ สาเหตุนั้นอาจเพราะตระกูลอ้วนนั้นยังคงมีสายสัมพันธ์อยู่ในราชสำนักฮั่น แล้วหลังจากศึกกัวต๋อจบลง ขุนนางและนายทหารจำนวนมากของอ้วนเสี้ยวได้มาสวามิภักดิ์อยู่กับโจโฉ คนเหล่านี้มีไม่น้อยที่มีตำแหน่งสูงส่ง ก่อนหน้านี้โจโฉเพิ่งจะประหารซุยเอี๋ยนที่เป็นอดีตขุนนางของอ้วนเสี้ยวและเป็นขุนนางที่มีบารมีมาก นี่ย่อมแสดงให้เห็นถึงภัยที่อยู่ภายในของวุยก๊กเองซึ่งยากจะกำจัดทิ้งได้หมด โจสิดได้รับการสนับสนุนจากเหล่าบัณฑิตลัทธิหยูและอดีตขุนนางที่เคยรับใช้ตระกูลอ้วน ซึ่งเรื่องนี้มิใช่เหตุบังเอิญ เนื่องจากโจสิดคบหาสนิทสนมกับบัณฑิตและขุนนางเหล่านี้อยู่มาก หากว่าโจสิดได้ขึ้นเป็นรัชทายาทจริง อาจจะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวุยก๊กก็เป็นได้ 

อีกทั้งเอียวสิ้วเองก็เป็นทายาทขุนนางราชสำนักที่ยึดมั่นในขนบขงจื๊อ ตระกูลเอียวหลายชั่วรุ่นของเขายึดถือหัวใจสำคัญในตำราโอวหยางซ่างซู ที่ว่าด้วย สี่รู้ สามไม่มัวเมา เป็นหลักประพฤติตนอย่างแข็งขัน คนตระกูลเอียวยึดถือหลักของขุนนางแห่งราชสำนักฮั่นเรื่อยมาโดยมิได้เสื่อมโทรมลงตามกระแสของยุคสมัย เมื่อรวมกับสติปัญญาไหวพริบของเอียวสิ้วเช่นนี้ หากวันหน้าโจสิดได้ขึ้นเป็นรัชทายาทจริง เอียวสิ้วก็มีโอกาสจะเป็นขุนนางผู้ใหญ่หรือมหาเสนาบดีผู้มีอำนาจปกครองบ้านเมือง บรรดาเครือญาติและเครือข่ายมิตรสหายของเขาก็จะมีอำนาจไปด้วย ดังนั้นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นคือ การกลับมามีอำนาจอีกครั้งของเครือข่ายขุนนางในตระกูลอ้วน หากยึดถือบันทึกในจดหมายเหตุเป็นหลักแล้ว นี่ย่อมเป็นสิ่งที่โจโฉหวาดระแวงมาก 

แต่แม้ว่าเอียวสิ้วจะมีคุณสมบัติพร้อมทั้งชาติตระกูลและความสามารถถึงเพียงนี้ เขากลับค่อนข้างไร้เดียงสาทางการเมือง และยังไร้ประมุขศิลป์ในการอยู่กับเจ้านายขี้ระแวงแบบโจโฉ ดังนั้นเมื่อโจโฉสามารถหาเหตุกำจัดเอียวสิ้วได้แล้ว ก็จะต้องกำจัดทิ้งทันที 
บทเรียนของเอียวสิ้วนี้นับว่าเป็นเรื่องแตกต่างกับสุมาอี้ที่มีคุณสมบัติหลายประการคล้ายคลึงกัน แต่สุมาอี้รู้จักระแวดระวังตนเองอยู่ตลอด ไม่แสดงตนออกนอกหน้าเกินไป จึงเอาตัวรอดต่อมาได้

สรุปข้อแตกต่างเรื่องราวของเอียวสิ้ว ระหว่างจดหมายเหตุและนิยาย

      1.ในนิยายสามก๊กได้เสริมสร้างเรื่องราวการตายของเอียวสิ้วให้มีสีสันมากขึ้น โดยเล่าว่าโจโฉบัญชาการทัพใหญ่ไปทำศึกกับเล่าปี่ที่ฮั่นจง แต่หลังจากทำศึกแล้วก็พบว่ายากจะชิงฮั่นจงกลับมาได้ จึงมีความคิดจะถอยทัพกลับ ระหว่างนั้นได้เขาขานรหัสลับกับทหารเฝ้ายามยามวิกาลว่าซี่โครงไก่ เอียวสิ้วเป็นกุนซือติดตามในกองทัพไปด้วย เมื่อแฮหัวตุ้นมาถามรหัสจากทหารยามแล้วได้ความว่าซี่โครงไก่ เอียวสิ้วจึงอธิบายให้แฮหัวตุ้นทราบว่าโจโฉมีเจตนาที่จะถอยทัพกลับ เพราะซี่โครงไก่นั้นมีความนัยเปรียบเทียบกับการทำศึกชิงฮั่นจงว่าแย่งชิงมาได้ยาก แต่ก็กินไม่ได้เหมือนกับซี่โครงไก่ แฮหัวตุ้นจึงเตรียมจะถอนทัพกลับ เมื่อโจโฉทราบเรื่องก็โกรธมาก จึงสั่งประหารชีวิตเอียวสิ้วในที่สุด

     2.ในนิยายสามก๊กได้แต่งเสริมเรื่องราวที่โจโฉสั่งประหารเอียวสิ้วเพราะรหัสลับเรื่องซี่โครงไก่ สาเหตุอาจเพราะเพื่อต้องการทำให้เรื่องราวมีสีสันมากยิ่งขึ้น แต่นั่นก็ทำให้เรื่องที่โจโฉสั่งประหารชีวิตเอียวสิ้วนั้นแลดูมาจากการอารมณ์เพียงชั่ววูบของโจโฉมากกว่าจะเป็นความตั้งใจแต่ทีแรก แต่ในประวัติศาสตร์นั้น หากวิเคราะห์แล้วสาเหตุที่เอียวสิ้วต้องถึงแก่ความตาย ออกจะเป็นเพราะผลกระทบที่มาจากการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทระหว่างโจผีและโจสิดเสียมากกว่า ดังนั้นเอียวสิ้วจึงต้องจบชีวิตลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Credite :  https://my.dek-d.com/sirpass/story/viewlongc.php?id=10590&chapter=10

No comments:

Post a Comment