Thursday, July 19, 2018

จิวยี่ กงจิ๋น (Zhou Yu) - จอมทัพเรืออันดับหนึ่งแห่งยุคสามก๊ก

จิวยี่ กงจิ๋น (โจวอวี่)
จอมทัพเรืออันดับหนึ่งแห่งยุคสามก๊ก
สำนวนที่ว่า ฟ้าให้จิวยี่เกิดมาแล้วไยต้องให้ขงเบ้งเกิดมาด้วยเล่า

         นี่เป็นประโยคที่โด่งดังมากที่สุดประโยคหนึ่งในนิยายสามก๊ก เป็นวาทะของบุรุษผู้หนึ่งได้พูดเอาไว้ก่อนวาระสุดท้าย เขาผู้นี้ก็คือยอดแม่ทัพเรืออัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งยุคสามก๊ก ทั้งเป็นบุรุษรูปงาม ผู้เปี่ยมด้วยสติปัญญา ความสามารถในการทำศึก และความภักดีต่อง่อก๊กอย่างลึกซึ้ง ที่กล่าวมานี้ไม่อาจเป็นอื่นได้อีกนอกจาก บุรุษนาม จิวยี่ กงจิ๋น แม่ทัพใหญ่แห่งรัฐหวูหรือ ง่อก๊ก

         เรื่องราวของจิวยี่ได้รับการกล่าวขวัญถึงและเป็นที่รู้จักสำหรับแฟนหนังสือสามก๊กในฐานะคู่ต่อสู้ทางสติปัญญาที่มีความทัดเทียมกับมังกรหลับขงเบ้ง แม้ว่าจิวยี่มักจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในการประลองทางปัญญาและเสียรู้ให้อุบายของขงเบ้งอยู่บ่อยครั้ง

Wednesday, July 18, 2018

ลิโป้ เฟยเสียง (Lu Bu) - เทพนักรบแห่งยุคสามก๊ก


ลิโป้ เฟิ่งเซี่ยน
Lu Bu (Fengxian)

                 หยืนจงหลี่ปู้ หม่าจงชื่อทู่ความหมายของประโยคนี้คือ
ยอดคนต้องลิโป้ ยอดอาชาต้องเซ็กเธาว์
         ประโยคข้างต้นนี้เป็นคำที่ใช้สำหรับกล่าวขานถึงยอดนักรบหนึ่ง ซึ่งได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในยุคก่อนหน้าที่แผ่นดินจะแตกขั้วเป็นสามก๊ก และเป็นบุคคลเดียวที่สามารถต่อสู้ได้สูสีกับ กวนอูและเตียวหุย สองยอดขุนพลแห่งยุคโดยพร้อมกัน ก็ยังไม่อาจเอาชีวิตเขาได้ ทำให้ความแข็งแกร่งของเขากลายเป็นตำนานในฐานะของเทพนักรบผู้เข้มแข็งที่สุดในแผ่นดิน

ซุนวู ๑๓ บท : บทที่ ๗ การสัประยุทธ์


อันหลักแห่งการบัญชาทัพนั้น แม่ทัพรับโองการจากประมุข ระดมไพร่รวบรวมพล ตั้งทัพเผชิญข้าศึก ที่ยากคือการชิงชัย ความยากของการชิงชัยอยู่ที่แปลงอ้อมให้เป็นตรง แปลงภยันตรายให้เป็นประโยชน์
ฉะนั้นจึงพึงเดินทางอ้อม แล้วล่อด้วยประโยชน์ เคลื่อนพลทีหลัง ถึงที่หมายก่อน นี้คือผู้รู้กลยุทธ์อ้อมตรง ฉะนั้น การชิงชัยมีประโยชน์ การชิงชัยมีภัย ยกทัพทั้งกองไปชิงประโยชน์ จักไม่ทันกาล ทิ้งยุทโธปกรณ์ไปชิงประโยชน์ จักสูญเสียสัมภาระ

เหตุนี้ แม้นเก็บเสื้อเกราะเร่งเดินทัพ ไม่หยุดทั้งกลางวันกลางคืน รีบรุดเป็นทวีคูณ เพื่อไปชิงประโยชน์ในร้อยลี้ แม่ทัพทั้งสามจักเป็นเชลย เพราะผู้แข๋งแรงจะขึ้นหน้า ผู้เหนื่อยล้าจะตกหลัง การนี้จะมีทหารถึงที่หมายเพียงครึ่งเดียว แม้นเพื่อชิงประโยชน์ในสามสิบลี้ ก็จะมีทหารถึงที่หมายเพียงสองในสาม

ซุนวู ๑๓ บท : บทที่ ๖ ตื้นลึกหนาบาง


ผู้เข้าสนามรบคอยข้าศึกก่อนย่อมสดชื่น ผู้เข้าสนามรบสู้ศึกฉุกละหุกทีหลังย่อมอิดโรย ฉะนั้น ผู้สันทัดการรบ จึงกระทำต่อผู้อื่นใช่ถูกผู้อื่นกระทำ

ที่สามารถทำให้ข้าศึกมาเอง ก็เพราะล่อด้วยประโยชน์ที่สามารถทำให้ข้าศึกมิกล้าเข้า ก็เพราะเผยให้เห็นภัย ฉะนั้น ข้าศึกสดชื่นพึงให้อิดโรย อิ่มพึงให้หิว สงบพึงให้เคลื่อน

พึงดีที่ข้าศึกมิอาจหนุนช่วย พึงรุกที่ข้าศึกมิได้คาดคิด เดินทัพพันลี้มิเหนื่อย เพราะเดินในที่ปลอดคน โจมตีก็ต้องได้เพราะข้าศึกมิอาจป้องกัน รักษาก็ต้องมั่นคง เพราะข้าศึกมิอาจเข้าตี

ฉะนั้น ผู้สันทัดการโจมตี ข้าศึกมิรู้ที่จะตั้งรับ ผู้สันทัดการตั้งรับ ข้าศึกมิรู้ที่จะโจมตี แยบยลแสนจะแยบยล จนมิเห็นแม้วี่แววพิสดารสุดพิสดาร จนไร้สิ้นซึ่งสำเนียง ฉะนั้น จึงสามารถบัญชาชะตากรรมข้าศึก

Thursday, July 12, 2018

ส่วนที่ ๒ กลยุทธ์เผชิญศึก : กลยุทธ์ที่ ๙ ดูไฟชายฝั่ง

ส่วนที่ ๒ กลยุทธ์เผชิญศึก
ยามเมื่อเผชิญศึก
เท็จลวงกับจริงแท้
พึงใช้สอดแทรกซึ่งกันและกันอย่างสลับซับซ้อน
ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ
  
กลยุทธ์ที่ ๙ ดูไฟชายฝั่ง

แจ้งแตกมิเป็นส่ำ มืดรอให้อับจน ความดุร้ายใจโหด จักคร่าชีวิตเอง
คล้อยเพื่อเคลื่อนตาม คล้อยตามจึงเคลื่อน


กลยุทธ์นี้มีความหมายว่า เมื่อประสบกับภาวะที่ข้าศึกแตกแยกวุ่นวายปั่นป่วนอย่างหนัก
พึงรอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสงบ หากข้าศึกใช้ความป่าเถื่อนแก่กัน ต่างพิพาทเข่นฆ่ากัน
แนวโน้มก็จักพาไปสู่ความวินาศเอง ในเวลาเยี่ยงนี้จักต้องปฏิบัติให้คล้อยตามการเปลี่ยนแปลง
ของสภาพข้าศึก ตระเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า เพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ชิงมาซึ่งชัยชนะ
โดยใช้การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของทางฝ่ายข้าศึกให้เป็นประโยชน์