การทำศึกพึงรู้การแปรเปลี่ยนของเพลิงทั้งห้า คำนวณเวลาเฝ้ารอโอกาส ฉะนั้น การใช้เพลิงช่วยในการโจทตีจักมีผลชัด ใช้น้ำช่วยการโจมตีจักเสริมให้แกร่ง น้ำตัดข้าศึกด้ แต่เผด็จศึกมิได้ อันการรบชนะได้ดินแดนมาแล้ว หากมิเสริมให้มั่นคงจักเป็นอันตราย เรียกว่าการสิ้นเปลืองอันสูญเปล่า
ฉะนั้นจึงกล่าวว่า เจ้านายผู้ชาญฉลาดพึงไตร่ตรองจงหนัก แม่ทัพผู้ยอดเยี่ยมพึงดำเนินการรอบคอบ ไม่เป็นผลดีไม่กรีธาทัพ ไม่มีผลได้ไม่ใช้กำลัง หากไม่คับขันจักไม่ออกรบ เจ้านายมิควรเคลื่อนพลเพราะกริ้ว แม่ทัพมิควรทำศึกเพราะโกรธ ต้องด้วยประโยชน์ก็เคลื่อน ไม่ต้องด้วยประโยชน์ก็หยุดกริ้วอาจกลายเป็นรัก โกรธอาจกลายเป็นชอบ แต่สูญชาติมิอาจกลับคืน สิ้นชีพมิอาจกลับฟื้น
ฉะนั้น ประมุขผู้ชาญฉลาดพึงสุขุม แม่ทัพผู้ยอดเยี่ยมพึงระวัง นี้คือหลักแห่งความสงบสุขของบ้านเมืองและความปลอดภัยของกองทัพ
ภาคปฏิบัติ
"การรบด้วยเพลิงมีห้า หนึ่งคือเผาไพร่พล สองคือเผายุ้งฉาง สามคือเผายุทธสัมภาระ
สี่คือเผาคลังวัสดุ ห้าคือเผาอุปกรณ์ขนส่ง"
"ใช้เพลิงช่วยการโจมตีจักมีผลชัด ให้น้ำช่วยการโจมตีจักเสริมให้แกร่ง"
"รบได้ดินแดนมาแล้ว หากมิเริมให้มั่นคงจักเป็นอันตราย
เรียกว่าการสิ้นเปลืองอันสูญเปล่า"
"เจ้านายมิควรเคลื่อนพลเพราะกริ้ว แม่ทัพมิควรทำศึกเพราะโกรธ"
อ่านต่อ >>>ซุนวู ๑๓ บท : บทที่ ๑๓ การใช้จารชน
Credite : https://www.baanjomyut.com/library/the_art_of_war/25.html
No comments:
Post a Comment