Saturday, April 3, 2021

เงียบให้ถูกจังหวะ..คนชนะไม่พูดมาก และ วิชา ย่อ(ย.) : พูดให้ฟังดังแค่หู ทำให้ดูรู้ถึงใจ

เสือมันจะย่อตัวลงและทำตัวให้นิ่งเงียบที่สุดเมื่อมันจะล่าเหยื่อ สายตาจับจ้องเหยื่อไม่ลดละ เมื่อจังหวะได้ที มันก็จะกระโจนตระครุบเหยื่อ ในเวลาชั่วพริบตา

พิชัยยุทธซุนวูว่าไว้ 

-ชนะไม่ได้ก็ต้องรอคอยได้ 

-เลี่ยงแข็ง..ตีอ่อน 

-ข้าศึกสบาย,ฮึกเหิม พึงทำให้เหนื่อยล้า แล้ว"รอซ้ำยามเปลี้ย" ในบางสถานการณ์ การรอคอยคือยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุด เช่น จะข้ามถนน แต่รถมา..ข้ามไม่ได้คุณก็ต้องรอได้ ให้รถไปก่อน..ข้ามได้ก็ค่อยข้าม บางคนอาจมองว่าการไม่ทำอะไรคือสิ่งที่รับไม่ได้, ไม่เอาไหน หากแต่ถ้า

-ลงมือแล้วมันผิดทิศทาง 

- ลงมือกระทำดันแล้วไป"สร้างเรื่อง" 

-ลงมือแล้วพบกับความตายละ ดังภาษิตว่า "ไม่รนหาที่จะไม่ตาย" ต้องรู้จักรอคอยและรู้จักอดทน ขณะเดียวกันก็ใช้... 

-ใช้เวลานั้นพิจารณาความเปลี่ยนแปลงที่จะตามมา 

-ใช้เวลานั้นสร้างความเปลี่ยนแปลงเสียเอง 

เมื่อครั้งที่ ง่อก๊ก(ซุนกวน)ถูกคุกคามจาก เล่าปี่ สาเหตุเพราะ กวนอู ตายเพราะง่อก๊ก เตียวหุย ตายก็เพราะง่อก๊ก เล่าปี่ ระดมกองทัพกว่า 700,000 นาย รบชนะตามรายทางตลอดมาหมายจะถล่ม ง่อก๊กให้ราบเป็นหน้ากลอง ยิ่งรบยิ่งชนะ ยิ่งรบยิ่งฮึกเหิม 

ฝั่งง่อก๊ก(ซุนกวน) ยิ่งรบยิ่งแพ้ ยิ่งรบยิ่งขวัญกำลังใจตกต่ำ แม่ทัพใหญ่ไม่ว่ากี่คน ล้วนแต่ แพ้ๆๆๆๆ อิหยังวะ จนมีผู้เสนอต่อซุนกวนว่า ให้ลกซุน บัณฑิตหนุ่มวัย29ปี เป็นแม่ทัพใหญ่ในการรับศึกครั้งนี้ ,เพราะ -ในคราวที่ ลิบองปราบกวนอู ลกซุนผู้นี้แหละที่เป็นผู้วางแผน 

-ลกซุนเป็นผู้หนึ่งที่ศึกษาตำราพิชัยสงครามอย่างแตกฉาน 

เมื่อลกซุนมารับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ขณะที่ตนอายุแค่ 29 ปีเท่านั้น รองแม่ทัพอย่าง ฮันต๋ง อายุก็รุ่นพ่อ ฝ่ายทหารง่อก๊ก แม่ทัพนายกอง ล้วนแต่ดูถูกเขา ยิ่งทหารผู้อาสุโสในกองทัพ ไม่มีใครเชื่อมั่นในตัวลกซุน ยิ่งพวกรุ่นเก๋าๆ อย่าง เทียเภา,อุยกาย,จิวท่าย ไม่ต้องพูดถึง พวกเขาล้วนแต่"ไม่เอา"ลกซุน ฝ่ายทหารง่อก๊กยินดีตายเพื่อมาตุภูมิ ยินดีออกไปรบเพื่อง่อก๊ก 

แต่ลกซุนสั่งให้ "ตั้งรับ" สะงั้น ฝั่งเล่าปี่ เห็นว่า ฝั่งง่อก๊ก ตั้งรับจึงส่งคนมาด่าท้าทายทุกๆวัน จนเหล่า ลูกน้องลกซุนทนไม่ไหว เรียกร้องขอที่จะไปจัดการคนที่มาด่าให้สาสมใจ แต่ลกซุนสั่งการให้ "นิ่งเงียบ" สะงั้น นานวันๆ ลกซุนเอาแต่ตั้งรับ ไม่รบ เหล่าลูกน้องของเขาล้วนไม่มีใครพอใจ แต่ลกซุนก็เลือกที่จะ"เงียบ" ถามว่าลกซุนรู้มั้ยว่าลูกน้องคิดยังไง ,เป็นยังไงอยู่ เขาย่อมรู้ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะ"พูดมาก" หากแต่ มันคือเวลาที่จะ "นิ่งเงียบ" มันคือเวลาเฝ้ารอคอยจังหวะ หากลกซุนพูดมาก ความลับย่อมรั่วไหล จารชนฝ่ายเล่าปี่คงส่งข่าว ขอแค่จังหวะครั้งเดียวเท่านั้น ลกซุนจะบดขยี้กองทัพ 700,000 นายของเล่าปี่ให้เละ ขอแค่จังหวะเดียวเท่านั้น ลกซุนจะสอนให้ทุกคนรู้เองว่า" พูดให้ฟังดังแค่หู ทำให้ดูรู้ถึงใจ" เพียงแต่ว่า จังหวะที่ลกซุนต้องการ ณ เวลานั้นมันก็แค่ยังมาไม่ถึง ขอเพียงรอคอยได้ ขอเพียงอดทนอดกลั้น ต่อคนอื่นๆ ขอเพียงเอาชนะใจตนเอง ไม่ละทิ้งเป้าหมายและยุทธศาสตร์เดิมที่วางเอาไว้ เมื่อมีคนขัดคำสั่ง,และคนนั้นเป็นญาติซุนกวน ลกซุนสั่งประหารเพื่อมิให้ใครทำตามเป็นเยี่ยงอย่าง 

สิ่งที่ลกซุนต้องต่อสู้ ณ ตอนนี้ นอกจากกองทัพอันฮึกเหิมของเล่าปี่แล้ว ลกซุนยังมีศึกภายในง่อก๊ก และยังต้องต่อสู้กับจิตใจของตัวเองอีก ฝ่ายเมืองหลวงเกี๊ยนเงียบ บรรดาขุนนางที่อิจฉาลกซุนที่ได้เป็นแม่ทัพใหญ่ในวัยแค่29 ต่าง"แทงหลัง" เขียนจดหมายฎีกา กล่าวโทษลงซุนต่างๆนานา หาว่า เอาแต่ตั้งรับไม่ยอมออกไปสู้ ดีหน่อยที่ซุนกวนยังเชื่อมั่นในตัวลกซุน และสนับสนุน อีกทั้งซุนกวนก็เป็นผู้รู้หนังสือผู้หนึ่งก็คงมองขาดว่า "ต้องรอคอยอีกสักพัก" 

ลกซุนเลือกที่จะ นิ่งเงียบ เมื่อนิ่งเงียบ ไม่ยอมให้อารมณ์ครอบงำ สติปัญญาก็บังเกิด นโยบายของลกซุนคือ" ตั้งรับ อดทนรอคอย" รอคอยอะไร? รอคอยฝ่ายเล่าปี่ เผยช่องว่างไง ลกซุนขอให้ลูกน้องเชื่อมั่นในนโยบายนี้ หากแต่พอลูกน้องทุกคนฟังล้วนแต่ ขำกร๊าก หาว่าลกซุนขี้ขลาดบ้าง,กลัวตายบ้าง บางคนถึงขนาดทำท่าล้อเลียนก็มี แต่ลกซุน นิ่งเงียบ !!! ไม่โต้ตอบ บอกแค่ว่า "พวกท่านรอคอยอีกสักพักเมื่อเวลานั้น ทหารจากฝากฟ้าจะมาช่วยพวกเราเอง" 

ฝ่ายเล่าปี่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตั้งรับ ไม่เล่นด้วย ด่าแล้วก็ยังนิ่ง ก่อกวนมันก็ยังนิ่ง จะบุกก็ไม่ได้ เมื่อฤดูร้อนมาถึง เล่าปี่เลือกตั้งค่ายริมแม่น้ำเป็นความยาวกว่า 700 ลี้ ทหารกว่า 700,000 คน ล้วนแต่ได้รับความยากลำบากเนื่องจากอากาศร้อน ,ต้องกินน้ำ 

เมื่อจารชนมาแจ้งข่าวการตั้งค่ายของเล่าปี่ให้ลกซุนทราบ ลกซุนถึงกับตบโต๊ะ "ได้เวลาแล้ว" !!!! เรียกประชุมลูกน้อง ,วางแผน,สั่งการ ลูกน้องลกซุนที่คันไม้คันมือมานาน ล้วนแต่"อั้น" พร้อมที่จะ "ปล่อยของ" ทุกคน ลกซุนวางแผนจัดการให้เหล่าๆ แม่ทัพนายกองบุกโจมตีค่ายของฝั่งเล่าปี่ โดยใช้ไฟโจมตีค่ายเว้นค่าย เพื่อให้ทหารเล่าปี่เกิดความโกลาหล แล้วจึงเข้าตีอย่างหนักหน่วง ทหารจากฝากฟ้าที่ลกซุนเคยบอก ลูกน้องให้อดทนรอคอยนั่นคือ พลังแห่งไฟ ,และโอกาสที่จะใช้มัน ลกซุนทหารน้อยกว่าฝั่งเล่าปี่เยอะมาก จึงจำเป็นต้องใช้พลังจักรวาลเข้าช่วย นั่นคือ พลังไฟ ทหารเล่าปี่กว่า 700,000 คน ล้วนถูกเพลิงเผา,เสียชีวิต,สูญหายไปทั้งสิ้น ,ศึกครั้งนี้ เล่าปี่พ่ายแพ้อย่างหมดรูปถึงกับตรอมใจตาย เล่าปี่ที่รบทัพจับศึกมาทั้งชีวิต แม้แต่โจโฉยังเอาไม่ลง เล่าปี่ที่เริ่มต้นจากคนทอเสื่อขาย สู้ชีวิตจนสามารถตั้งตัวเป็นฮ่องเต้แห่งจ๊กก๊ก แต่กลับพ่ายแพ้ให้แก่บัณฑิตอายุ 29 ปีเท่านั้นอย่างลกซุน ทั้งๆที่เล่าปี่เคยดูถูกลกซุนว่าเป็นแค่”ไอ้เด็กอมมือ” 

เสร็จศึกครั้งนี้ ลกซุน คงจะฝากบอกเล่าปี่ว่า “เงียบให้ถูกจังหวะ..คนชนะไม่พูด ลกซุนแทบไม่คุย ไม่มีการทูตอะไรทั้งนั้น นิ่งเงียบตั้งรับ แต่บุกตีเล่าปีที เล่าปี่หมอบ ลุกไม่ขึ้นไปเลย

-สำหรับ ลูกน้องตลอดจนเจ้านาย ของง่อก๊ก ลกซุนคงไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ให้ผลงานมันตอบแทนคำพูดแล้วกัน “พูดให้ฟังดังแค่หู...ทำให้ดูรู้ถึงใจ”
ต่อมาลกซุนคือเสาหลักของง่อก๊ก ต่อจาก จิวยี่ โลซก ลิบอง
ต่อมาลกซุนได้มาช่วยซุนกวนปกครองเกงจิ๋ว ตลอดชีวิตที่ลกซุนยังอยู่ ง่อก๊กปลอดภัยจากข้าศึก
ข้อสรุป
 
1.หลายๆคนที่ได้เป็นหัวหน้าคน ตั้งแต่อายุยังน้อย ลูกน้องบางคนก็อาจจะมีรุ่นพ่อ รุ่นเดอะ รุ่นอาวุโสก็มี
สิ่งสำคัญคือการให้เกียรติกัน,อดทนอดกลั้น แน่นอนว่า อาจจะถูกลูกน้อง “ลองของ”บ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา ขอให้ดูแบบลกซุน เงียบให้ถูกจังหวะ..คนชนะไม่พูดมาก /พูดให้ฟังดังแค่หู...ทำให้ดูรู้ถึงใจ
 
2.การควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญ อดทนอดกลั้น /ชนะใจตนเอง แบบลกซุน
 
3.ระเบียบวินัยคือเรื่องสำคัญ บางจังหวะต้องเข้มงวด บางจังหวะต้องผ่อน เอาให้สมดุล ไม่ใช่อะลุ่มอะล่วยจนงานเจ๊ง
 
4.การรอคอยอย่างรู้เท่าทันคือสิ่งสำคัญ


Credite : Karoon Smile

No comments:

Post a Comment