ผู้สันทัดการรบในอดีต
จักทำให้ตนมิอาจพิชิตได้ก่อน
เพื่อรอโอกาสข้าศึกจะถูกพิชิต
มิอาจพิชิตเป็นฝ่ายตน ถูกพิชิตเป็นฝ่ายข้าศึก ฉะนั้น
ผู้สันทัดการรบ อาจทำให้ตนมิอาจพิชิตได้
แต่ไม่อาจทำให้ข้าศึกจะต้องถูกพิชิต
ดังนี้จึงว่า ชัยชนะอาจล่วงรู้
แต่ไม่อาจกำหนดได้ ผู้ที่เราไม่อาจเอาชนะ
พึงตั้งรับ
ผู้ที่เราอาจเอาชนะ พึงเข้าตี ตั้งรับเพราะกำลังไม่พอ เข้าตีเพราะกำลังเหลือเฟือ ผู้สันทัดการตั้งรับ จักประหนึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้บาดาล

ผู้สันทัดการเข้าตี จักประหนึ่งเคลื่อนตัวอยู่เหนือฟากฟ้า
ฉะนั้น จึงสามารถพิทักษ์ตนเอง ให้ได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์
หยั่งเห็นในชัยชนะมิเกินซึ่งคนทั้งปวงรู้
หาใช่ความยอดเยี่ยมที่แท้ไม่
ฉะนั้น ยกขนนกขึ้นได้ใช่ว่าทรงพลัง
เห็นแสงเดือนตะวัน ใช่ว่าตาสว่าง
ได้ยินเสียงฟ้าคำรณใช่ว่าโสตไว
ที่โบราณเรียกว่าผู้สันทัดการรบนั้น คือผู้ที่เอาชนะได้ง่าย ฉะนั้น ชัยชนะของผู้สันทัดการรบ จึงมิได้ชื่อว่ามีสติปัญญา มิ้มีควววามชอบในเชิงกล้าหาญ ฉะนั้น ชัยชนะของเขาจึงมีพึงกังขา เหตุที่มิพึงกังขา ก็เพราะปฏิบัติการของเขาจักต้องชนะ จึงชนะผู้ต้องพ่ายแพ้ ฉะนั้น ผู้สันทัดการรบจึงตั้งอยู่ในฐานะไม่แพ้ และไม่สูญเสียโอกาสทำให้ข้าศึกต้องแพ้
เหตุนี้ ฝ่ายชนะรู้ว่าชนะก่อนจึงออกรบ ฝ่ายแพ้รบก่อนแล้วจึงหวังว่าจะชนะ ฉะนั้น ผู้สันทัดการบัญชาทัพ จักจรรโลงไว้ซึ่งมรรคและกฎระเบียบ
ฉะนั้น
จึงสามารถกำหนดชัยชนะและพ่ายแพ้ได้
หลักแห่งการทำศึก มี หนึ่งคือวินิจฉัย
สองคือคำนวณ สามคือปริมาณ
สี่คือเปรียบเทียบ ห้าคือชัยชนะ พื้นที่ก่อให้เกิดการวินิจฉัย การวินิจฉัยก่อให้เกิดการคำนวณ การคำนวณก่อให้เกิดปริมาณ ปริมาณก่อให้เกิดการเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบก่อให้เกิดชัยชนะ
ฉะนั้น กองทัพที่ชนะจึงประดุจเอาหนึ่งอี้ไปเปรียบกับหนึ่งจู กองทัพที่แพ้จึงประดุจเอาหนึ่งจูไปเปรียบกับหนึ่งอี้ ไพร่พลของฝ่ายชนะ จึงเสมือนปล่อยน้ำที่กักในลำธารสูงแปดพันเซียะ ให้ทะลักกระโจนลงมา นี้คือรูปลักษณ์ของการรบ
ภาคปฏิบัติ
"จักทำให้ตนมิอาจพิชิตได้ก่อน เพื่อรอโอกาสข้าศึกจะถูกพิชิต"
"ชัยชนะอาจล่วงรู้ แต่ไม่อาจกำหนดได้"
"ผู้ที่เราไม่อาจเอาชนะ พึงตั้งรับ ผู้ที่เราอาจเอาชนะ พึงเข้าตี"
"ผู้สันทัดการตั้งรับ จักประหนึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้บาดาล ผู้สันทัดการเข้าตีจักประหนึ่งซ่อนตัวอยู่เหนือฟากฟ้า"
"ผู้สันทัดการรบจึงตั้งอยู่ในฐานะไม่แพ้ และไม่สูญเสียโอกาสทำให้ข้าศึกต้องแพ้"
"ฝ่ายชนะรู้ว่าชนะก่อนจึงออกรบ ฝ่ายแพ้รบก่อนแล้วจึงหวังว่าชนะ"
"ผู้สันทัดการบัญชาทัพ จักจรรโลงไว้ซึ่งมรรคและกฎระเบียบ ฉะนั้นจึงสามารถกำหนดชัยชนะและพ่ายแพ้ได้"
"ชัยชนะอาจล่วงรู้ แต่ไม่อาจกำหนดได้"
"ผู้ที่เราไม่อาจเอาชนะ พึงตั้งรับ ผู้ที่เราอาจเอาชนะ พึงเข้าตี"
"ผู้สันทัดการตั้งรับ จักประหนึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้บาดาล ผู้สันทัดการเข้าตีจักประหนึ่งซ่อนตัวอยู่เหนือฟากฟ้า"
"ผู้สันทัดการรบจึงตั้งอยู่ในฐานะไม่แพ้ และไม่สูญเสียโอกาสทำให้ข้าศึกต้องแพ้"
"ฝ่ายชนะรู้ว่าชนะก่อนจึงออกรบ ฝ่ายแพ้รบก่อนแล้วจึงหวังว่าชนะ"
"ผู้สันทัดการบัญชาทัพ จักจรรโลงไว้ซึ่งมรรคและกฎระเบียบ ฉะนั้นจึงสามารถกำหนดชัยชนะและพ่ายแพ้ได้"
source : https://www.baanjomyut.com/library/the_art_of_war/17.html
No comments:
Post a Comment