![]() |
จิวยี่...เสือสำอาง |
ฟ้าให้ยี่มาเกิด ไฉนให้เหลียงมาเกิดด้วยเล่า..
ผมเชื่อว่าประโยคข้างต้น ..เป็นประโยค"คุ้นหู"คนอ่าน"สามก๊ก" จนเป็นเสมือน"ตราบาป"ติดตัวเจ้าของคำพูด ..คนที่ชื่อ"จิวยี่"ไปตลอดกาล..
จิวยี่เป็นคนเช่นนั้นจริงหรือ?
แน่นอนว่า ใครที่อ่าน"สามก๊ก"..ก็คงคิดเช่นนั้น เพราะ"ภาพ"ที่ออกมาของจิวยี่ที่เป็น"คู่ปรับ"ของ ขงเบ้ง..จะออกมาในลักษณะ"ขี้อิจฉา" เนื่องจากเมื่อเทียบกับ"ขงเบ้ง" การต่อกรทุกครั้งจิวยี่จะเป็นผู้แพ้..
แม้กระทั่งตอนเสียชีวิต ก็มีเรื่องเล่าว่า..
จิวยี่ สิ้นชีพเมื่ออายุได้เพียง 36 ปี ระหว่างยกทัพบุกเมืองปาเหล็ง ด้วยอาการโลหิตเป็นพิษจากลูกธนู ประกอบกับความแค้นใจที่มีต่อขงเบ้ง จึงกระอักเลือดตาย ก่อนสิ้น จิวยี่ได้รำพันออกมาว่า "เมื่อฟ้าส่งข้ามาเกิดแล้ว เหตุไฉนถึงส่งขงเบ้งมาเกิดด้วย"
ขณะที่บันทึกประวัติศาสตร์(จริง)ระบุว่าจิวยี่เสียชีวิตเพราะป่วยจากโรคระบาด
!!!แน่นอนว่า ใครที่อ่าน"สามก๊ก"..ก็คงคิดเช่นนั้น เพราะ"ภาพ"ที่ออกมาของจิวยี่ที่เป็น"คู่ปรับ"ของ ขงเบ้ง..จะออกมาในลักษณะ"ขี้อิจฉา" เนื่องจากเมื่อเทียบกับ"ขงเบ้ง" การต่อกรทุกครั้งจิวยี่จะเป็นผู้แพ้..
แม้กระทั่งตอนเสียชีวิต ก็มีเรื่องเล่าว่า..
จิวยี่ สิ้นชีพเมื่ออายุได้เพียง 36 ปี ระหว่างยกทัพบุกเมืองปาเหล็ง ด้วยอาการโลหิตเป็นพิษจากลูกธนู ประกอบกับความแค้นใจที่มีต่อขงเบ้ง จึงกระอักเลือดตาย ก่อนสิ้น จิวยี่ได้รำพันออกมาว่า "เมื่อฟ้าส่งข้ามาเกิดแล้ว เหตุไฉนถึงส่งขงเบ้งมาเกิดด้วย"
ส่วนคนที่ดู"สามก๊ก"ในภาพยนตร์เรื่อง"โจโฉแตกทัพเรือ" จึงอาจจะแปลกตาสำหรับ"จิวยี่" ที่เหลียงเฉาเหว่ย รับบท เพราะเป็นเหมือน"คนละคน"กับ"จิวยี่"ที่คนไทยคุ้นเคย
หากจะอธิบายแบบ"กำปั้นทุบดิน" ก็คงต้องบอกว่า จอห์น วู ใช้สามก๊กจากหนังสือเรื่อง Chronicles of the Three Kingdoms มาเป็น"หลัก"ในการนำเสนอ ขณะที่คนไทยคุ้นกับสามก๊กเรื่อง The Romance of Three Kingdom
"จิวยี่"ในสามก๊กของจอห์น วู จะตรงกับจริงหรือไม่ไม่รู้ครับ..แต่ใกล้เคียงกับบันทึกของจีนมากกว่าที่เรา คุ้นเคยกับบุคลิกคนขี้อิจฉา
หากจะอธิบายแบบ"กำปั้นทุบดิน" ก็คงต้องบอกว่า จอห์น วู ใช้สามก๊กจากหนังสือเรื่อง Chronicles of the Three Kingdoms มาเป็น"หลัก"ในการนำเสนอ ขณะที่คนไทยคุ้นกับสามก๊กเรื่อง The Romance of Three Kingdom
"จิวยี่"ในสามก๊กของจอห์น วู จะตรงกับจริงหรือไม่ไม่รู้ครับ..แต่ใกล้เคียงกับบันทึกของจีนมากกว่าที่เรา คุ้นเคยกับบุคลิกคนขี้อิจฉา
นั่นเพราะประวัติของ"จิวยี่"
...ในบันทึกของจีน...
จิวยี่ หรือ โจวยู่ (Zhou Yu) (ค.ศ. 175-210) ชื่อรอง กงจิ้น เป็นชาวเมืองลู่เจียนซู เกิดในครอบครัวขุนนางเก่า เป็นบุรุษรูปงามร่างสูงใหญ่ หน้าขาว เมื่อวัยเด็กได้เรียนรู้วิชาอย่างแตกฉาน ทั้งการทหาร และศิลปะแขนงต่างๆ และเป็นผู้ชำนาญทางดนตรีจนมีการกล่าวถึงในยุคนั้นว่า"ท่วงทำนองเพลงผิด โจวหลาน(คุณชายโจว) รู้สึก” ซึ่งหมายถึงหากจิวยี่ ฟังดนตรีเล่นผิดเพี้ยนเพียงเล็กน้อง ก็จะรู้ และบอกโน๊ตที่ถูกต้องให้เล่น
จิวยี่มีนิสัยโอบอ้อม มีน้ำใจต่อเพื่อนฝูง จึงมีผู้ที่เคารพนับถือเป็นมิตรสหายมากมาย !!!
จิวยี่คบหาเป็นเพื่อนกับซุนเซ็กมาแต่ยังเล็ก โดยเมื่อซุนเซ็ก หรือ"เจ้าหมีน้อย" จะสร้างเมืองกังตั๋ง ก็ได้จิวยี่ หรือ"เสือสำอาง"ผู้นี้แหละมาช่วยจนกังตั๋งรุ่งเรือง โดยเมื่อซุนเซ็กพบหน้าจิวยี่ก็ได้กล่าวอย่างดีใจว่า
“ข้าได้เห็นหน้าท่านแล้ว มีความหวังอย่างยิ่งว่าการใหญ่จักสำเร็จในวันข้างหน้า..”
ที่สำคัญก็คือ ซุนเซ็กกับจิวยี่เป็น"คู่เขย"เมื่อ ทั้งคู่แต่งงานกับนาง 2 เกี้ยวแห่งเมืองกังตั๋ง โดยซุนเซ็กแต่งกับไต้เกี้ยว ผู้เป็นพี่ ขณะที่เสียวเกี้ยว น้องสาวก็ตกแต่งเป็นภรรยาของจิวยี่
2 สาวนี่แหละที่"ขงเบ้ง"รู้ว่าเป็น"จุดอ่อน"จนสามารถชักยูงให้จิวยี่โน้มน้าวซุนกวนร่วมมือเล่าปี่รบโจโฉ..
รบครั้งสำคัญครั้งนั้นก็คือ สงครามยุทธนาวีที่หน้าผาเซ็กเพ็ก ลุ่มน้ำแยงซีเกียง ที่รู้จักกันในชื่อ"โจโฉแตกทัพเรือ" ซึ่งว่ากันว่า กองทีพโจโฉยกทัพมารับล้านคน โดยเป็นกองเรือยาวถึง 300 ลี้ หรือ 156 กม.
จิวยี่ หรือ โจวยู่ (Zhou Yu) (ค.ศ. 175-210) ชื่อรอง กงจิ้น เป็นชาวเมืองลู่เจียนซู เกิดในครอบครัวขุนนางเก่า เป็นบุรุษรูปงามร่างสูงใหญ่ หน้าขาว เมื่อวัยเด็กได้เรียนรู้วิชาอย่างแตกฉาน ทั้งการทหาร และศิลปะแขนงต่างๆ และเป็นผู้ชำนาญทางดนตรีจนมีการกล่าวถึงในยุคนั้นว่า"ท่วงทำนองเพลงผิด โจวหลาน(คุณชายโจว) รู้สึก” ซึ่งหมายถึงหากจิวยี่ ฟังดนตรีเล่นผิดเพี้ยนเพียงเล็กน้อง ก็จะรู้ และบอกโน๊ตที่ถูกต้องให้เล่น
จิวยี่มีนิสัยโอบอ้อม มีน้ำใจต่อเพื่อนฝูง จึงมีผู้ที่เคารพนับถือเป็นมิตรสหายมากมาย !!!
จิวยี่คบหาเป็นเพื่อนกับซุนเซ็กมาแต่ยังเล็ก โดยเมื่อซุนเซ็ก หรือ"เจ้าหมีน้อย" จะสร้างเมืองกังตั๋ง ก็ได้จิวยี่ หรือ"เสือสำอาง"ผู้นี้แหละมาช่วยจนกังตั๋งรุ่งเรือง โดยเมื่อซุนเซ็กพบหน้าจิวยี่ก็ได้กล่าวอย่างดีใจว่า
“ข้าได้เห็นหน้าท่านแล้ว มีความหวังอย่างยิ่งว่าการใหญ่จักสำเร็จในวันข้างหน้า..”
ที่สำคัญก็คือ ซุนเซ็กกับจิวยี่เป็น"คู่เขย"เมื่อ ทั้งคู่แต่งงานกับนาง 2 เกี้ยวแห่งเมืองกังตั๋ง โดยซุนเซ็กแต่งกับไต้เกี้ยว ผู้เป็นพี่ ขณะที่เสียวเกี้ยว น้องสาวก็ตกแต่งเป็นภรรยาของจิวยี่
2 สาวนี่แหละที่"ขงเบ้ง"รู้ว่าเป็น"จุดอ่อน"จนสามารถชักยูงให้จิวยี่โน้มน้าวซุนกวนร่วมมือเล่าปี่รบโจโฉ..
รบครั้งสำคัญครั้งนั้นก็คือ สงครามยุทธนาวีที่หน้าผาเซ็กเพ็ก ลุ่มน้ำแยงซีเกียง ที่รู้จักกันในชื่อ"โจโฉแตกทัพเรือ" ซึ่งว่ากันว่า กองทีพโจโฉยกทัพมารับล้านคน โดยเป็นกองเรือยาวถึง 300 ลี้ หรือ 156 กม.
"ซุนเซ็ก"เป็นคนแรกที่รู้ดีว่า"จิวยี่"มีความสามารถมาก
!!
เพราะความเก่งนั้น ทำให้เมื่อใกล้จะตาย ซุนเซ็กจึง"ห่วง"บวก"วิตก"ว่าจิวยี่จะคิดการณ์ใหญ่
ตอนซุนเซ็กตาย ได้แต่บ่น..."น้อยใจจิวยี่ไม่อยู่ด้วย มิได้สั่งความไว้ต่อปาก"
จากนั้น เจ้าหมีน้อยบอกนางไต้เกี้ยว.."เจ้าจงบอกแก่น้องสาวของเจ้าซึ่งเป็นภรรยาจิวยี่ให่ว่ากล่าวเอาใจจิวยี่ให้ช่วยทำนุยำรุงซุนกวน อนึ่งให้จิวยี่คิดถึงไมตรีต่อเรา"
จากนั้นก็สั่งเสียกับซุนกวน-น้องชายที่ขึ้นรับราชบัลลังค์ต่อ ..."การสงครามนั้นขัดสนประการใดก็ให้คิดอ่านกับจิวยี่เถิด"
โชคดีที่จิงยี่ยังควบม้าตู่ใจมาทันดูในซุนเซ็ก...พร้อมสาบานต่อหน้าศพ..
"ข้าพเจ้าจะช่วยทำนุบำรุงซุนกวนไปตามสติปัญญาโดยสุจริตจนกว่าจะสิ้นชีวิต" และเจ้าเสือสำอางก็รักษาคำมั่นจนตัวตาย ...
เพราะความเก่งนั้น ทำให้เมื่อใกล้จะตาย ซุนเซ็กจึง"ห่วง"บวก"วิตก"ว่าจิวยี่จะคิดการณ์ใหญ่
ตอนซุนเซ็กตาย ได้แต่บ่น..."น้อยใจจิวยี่ไม่อยู่ด้วย มิได้สั่งความไว้ต่อปาก"
จากนั้น เจ้าหมีน้อยบอกนางไต้เกี้ยว.."เจ้าจงบอกแก่น้องสาวของเจ้าซึ่งเป็นภรรยาจิวยี่ให่ว่ากล่าวเอาใจจิวยี่ให้ช่วยทำนุยำรุงซุนกวน อนึ่งให้จิวยี่คิดถึงไมตรีต่อเรา"
จากนั้นก็สั่งเสียกับซุนกวน-น้องชายที่ขึ้นรับราชบัลลังค์ต่อ ..."การสงครามนั้นขัดสนประการใดก็ให้คิดอ่านกับจิวยี่เถิด"
โชคดีที่จิงยี่ยังควบม้าตู่ใจมาทันดูในซุนเซ็ก...พร้อมสาบานต่อหน้าศพ..
"ข้าพเจ้าจะช่วยทำนุบำรุงซุนกวนไปตามสติปัญญาโดยสุจริตจนกว่าจะสิ้นชีวิต" และเจ้าเสือสำอางก็รักษาคำมั่นจนตัวตาย ...
แม้"ภาพ"ของจิวยี่
จะเป็น"คู่ปรับ"ของขงเบ้ง..
แต่มีเรื่องกล่าวกันว่าขงเบ้งเป็นหนึ่งในผู้ที่นับถือจิวยี่อย่างจริงใจ..แม้กระทั่งตอนตาย
น่าเสียดายที่"สามก๊กฉบับหอสมุด" เขียนถึงตอนนี้"สั้นๆ"ไว้เพียง.."ขงเบ้งครั้งไปถึงศพจิวยี่ก็เซ่นวัดกตามธรรมเนียมนิยมแล้วทำเศร้าโศกร้องไห้เป็นอันมาก"
แต่ในฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งบรีวิตต์ เทย์เลอร์ (C.H.Brewitt Taylor) ชาวอังกฤษที่เป็นเจ้าหน้าที่กงศุลจีน และเป็นบัณฑิตอักษรศาสตร์ภาษาจีน ได้เขียนถึงตอนที่ขงเบ้งไปเคารพศพจิวยี่ ..และมีนายทหารจิวยี่หลายคนรอฆ่าคนที่ทำให้"นาย"เสียชีวิต
แต่มีเรื่องกล่าวกันว่าขงเบ้งเป็นหนึ่งในผู้ที่นับถือจิวยี่อย่างจริงใจ..แม้กระทั่งตอนตาย
น่าเสียดายที่"สามก๊กฉบับหอสมุด" เขียนถึงตอนนี้"สั้นๆ"ไว้เพียง.."ขงเบ้งครั้งไปถึงศพจิวยี่ก็เซ่นวัดกตามธรรมเนียมนิยมแล้วทำเศร้าโศกร้องไห้เป็นอันมาก"
แต่ในฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งบรีวิตต์ เทย์เลอร์ (C.H.Brewitt Taylor) ชาวอังกฤษที่เป็นเจ้าหน้าที่กงศุลจีน และเป็นบัณฑิตอักษรศาสตร์ภาษาจีน ได้เขียนถึงตอนที่ขงเบ้งไปเคารพศพจิวยี่ ..และมีนายทหารจิวยี่หลายคนรอฆ่าคนที่ทำให้"นาย"เสียชีวิต
"อนิจจา กุงจิ้น!
ท่านช่างเผอิญอายุสั้นเสียนี่กระไร ความยืนยาวของวันชีวิตอยู่ในเอื้อพระหัตถ์ของะพระผู้เป็นเจ้า แต่มนุษย์เราก็ยังต้องรับทุกข์ทรมานหัวใจ ข้าพเจ้าจึงโศกเศร้าถึงท่านอย่าลึกซึ้ง ข้าพเจ้าหลั่งเมรัยสักการะแด่นท่าน ณ ยามนี้แล้ว เพื่อว่าดวงวิญญาณของท่านจักได้ลิ้มรสความหอมแห่งเมรัย"
จากนั้น...ขงเบ้งก็"ร่ายยาว"ถึงความอาจหาญของจิวยี่ ...
"อนิจจา ปิยสหาย!
คนอยู่กับคนตายย่อมจักต้องแยกกัน จะอยู่ร่วมกันมิได้ ถ้าในห้วงอันมืดโพ้น วิญญาณทั้งหลายจะมีทางเข้าใจได้แล้ว ท่านก็จะอ่านความจริงใจของข้าพเจ้า ณ บัดนี้ออก ส่วนในภพนี้ จะไม่มีมนุษย์ผู้ใดเข้าใจได้เลย
อนิจจา...ช่างปวดร้าวเสียนี่กระไร.."
ท่านช่างเผอิญอายุสั้นเสียนี่กระไร ความยืนยาวของวันชีวิตอยู่ในเอื้อพระหัตถ์ของะพระผู้เป็นเจ้า แต่มนุษย์เราก็ยังต้องรับทุกข์ทรมานหัวใจ ข้าพเจ้าจึงโศกเศร้าถึงท่านอย่าลึกซึ้ง ข้าพเจ้าหลั่งเมรัยสักการะแด่นท่าน ณ ยามนี้แล้ว เพื่อว่าดวงวิญญาณของท่านจักได้ลิ้มรสความหอมแห่งเมรัย"
จากนั้น...ขงเบ้งก็"ร่ายยาว"ถึงความอาจหาญของจิวยี่ ...
"อนิจจา ปิยสหาย!
คนอยู่กับคนตายย่อมจักต้องแยกกัน จะอยู่ร่วมกันมิได้ ถ้าในห้วงอันมืดโพ้น วิญญาณทั้งหลายจะมีทางเข้าใจได้แล้ว ท่านก็จะอ่านความจริงใจของข้าพเจ้า ณ บัดนี้ออก ส่วนในภพนี้ จะไม่มีมนุษย์ผู้ใดเข้าใจได้เลย
อนิจจา...ช่างปวดร้าวเสียนี่กระไร.."
![]() |
"โจโฉแตกทัพเรือ" |
เพราะคำกล่าวยกย่องอย่างจริงใจนี่แหละ ทำให้ขงเบ้ง"รอดตาย"...และเป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่า"เสือสำอาง" คือชายชาตินักรบคนหนึ่ง..ไม่ใช่คนเจ้าอารมณ์ขี้อิจฉา
ใครที่ชม"โจโฉแตกทัพเรือ" ..จึงควรเข้าใจว่าทำไมในภาพยนตร์ จิวยี่จึงดูเก่งกล้ากว่าที่เราเคยรู้จัก
เพราะนั่นคือ"จิวยี่"ที่จอห์น วู นำมาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษชื่อ Chronicles of the Three Kingdoms และภาษาจีน จึงต่างจาก"ภาพ"ที่คนไทยคุ้นเคยจาก"สามก๊ก"ฉบับหอสมุดแห่งชาติ
นี่คือ จิวยี่..เจ้าเสือสำอางแห่งสามก๊ก !!!
ใครที่ชม"โจโฉแตกทัพเรือ" ..จึงควรเข้าใจว่าทำไมในภาพยนตร์ จิวยี่จึงดูเก่งกล้ากว่าที่เราเคยรู้จัก
เพราะนั่นคือ"จิวยี่"ที่จอห์น วู นำมาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษชื่อ Chronicles of the Three Kingdoms และภาษาจีน จึงต่างจาก"ภาพ"ที่คนไทยคุ้นเคยจาก"สามก๊ก"ฉบับหอสมุดแห่งชาติ
นี่คือ จิวยี่..เจ้าเสือสำอางแห่งสามก๊ก !!!
Source : https://board.postjung.com/678927.html
No comments:
Post a Comment