Thursday, April 12, 2018

จิวยี่ ผู้ถ่มน้ำลายรดฟ้า


จิวยี่...เสือสำอาง

เทียนกี้แซยี่ ฮ่อปิ๊ดแซเหลียง
          ฟ้าให้ยี่มาเกิด ไฉนให้เหลียงมาเกิดด้วยเล่า..

          ผมเชื่อว่าประโยคข้างต้น ..เป็นประโยค"คุ้นหู"คนอ่าน"สามก๊ก" จนเป็นเสมือน"ตราบาป"ติดตัวเจ้าของคำพูด ..คนที่ชื่อ"จิวยี่"ไปตลอดกาล..

          จิวยี่เป็นคนเช่นนั้นจริงหรือ?
          แน่นอนว่า ใครที่อ่าน"สามก๊ก"..ก็คงคิดเช่นนั้น เพราะ"ภาพ"ที่ออกมาของจิวยี่ที่เป็น"คู่ปรับ"ของ ขงเบ้ง..จะออกมาในลักษณะ"ขี้อิจฉา" เนื่องจากเมื่อเทียบกับ"ขงเบ้ง" การต่อกรทุกครั้งจิวยี่จะเป็นผู้แพ้..
          แม้กระทั่งตอนเสียชีวิต ก็มีเรื่องเล่าว่า..
          จิวยี่ สิ้นชีพเมื่ออายุได้เพียง 36 ปี ระหว่างยกทัพบุกเมืองปาเหล็ง ด้วยอาการโลหิตเป็นพิษจากลูกธนู ประกอบกับความแค้นใจที่มีต่อขงเบ้ง จึงกระอักเลือดตาย ก่อนสิ้น จิวยี่ได้รำพันออกมาว่า "เมื่อฟ้าส่งข้ามาเกิดแล้ว เหตุไฉนถึงส่งขงเบ้งมาเกิดด้วย"
          ขณะที่บันทึกประวัติศาสตร์(จริง)ระบุว่าจิวยี่เสียชีวิตเพราะป่วยจากโรคระบาด !!!
          ส่วนคนที่ดู"สามก๊ก"ในภาพยนตร์เรื่อง"โจโฉแตกทัพเรือ" จึงอาจจะแปลกตาสำหรับ"จิวยี่" ที่เหลียงเฉาเหว่ย รับบท เพราะเป็นเหมือน"คนละคน"กับ"จิวยี่"ที่คนไทยคุ้นเคย
          หากจะอธิบายแบบ"กำปั้นทุบดิน" ก็คงต้องบอกว่า จอห์น วู ใช้สามก๊กจากหนังสือเรื่อง Chronicles of the Three Kingdoms มาเป็น"หลัก"ในการนำเสนอ ขณะที่คนไทยคุ้นกับสามก๊กเรื่อง The Romance of Three Kingdom
          "จิวยี่"ในสามก๊กของจอห์น วู จะตรงกับจริงหรือไม่ไม่รู้ครับ..แต่ใกล้เคียงกับบันทึกของจีนมากกว่าที่เรา คุ้นเคยกับบุคลิกคนขี้อิจฉา
นั่นเพราะประวัติของ"จิวยี่" ...ในบันทึกของจีน...
          จิวยี่ หรือ โจวยู่ (Zhou Yu) (ค.ศ. 175-210) ชื่อรอง กงจิ้น เป็นชาวเมืองลู่เจียนซู เกิดในครอบครัวขุนนางเก่า เป็นบุรุษรูปงามร่างสูงใหญ่ หน้าขาว เมื่อวัยเด็กได้เรียนรู้วิชาอย่างแตกฉาน ทั้งการทหาร และศิลปะแขนงต่างๆ และเป็นผู้ชำนาญทางดนตรีจนมีการกล่าวถึงในยุคนั้นว่า"ท่วงทำนองเพลงผิด โจวหลาน(คุณชายโจว) รู้สึก ซึ่งหมายถึงหากจิวยี่ ฟังดนตรีเล่นผิดเพี้ยนเพียงเล็กน้อง ก็จะรู้ และบอกโน๊ตที่ถูกต้องให้เล่น
          จิวยี่มีนิสัยโอบอ้อม มีน้ำใจต่อเพื่อนฝูง จึงมีผู้ที่เคารพนับถือเป็นมิตรสหายมากมาย !!!
          จิวยี่คบหาเป็นเพื่อนกับซุนเซ็กมาแต่ยังเล็ก โดยเมื่อซุนเซ็ก หรือ"เจ้าหมีน้อย" จะสร้างเมืองกังตั๋ง ก็ได้จิวยี่ หรือ"เสือสำอาง"ผู้นี้แหละมาช่วยจนกังตั๋งรุ่งเรือง โดยเมื่อซุนเซ็กพบหน้าจิวยี่ก็ได้กล่าวอย่างดีใจว่า
          ข้าได้เห็นหน้าท่านแล้ว มีความหวังอย่างยิ่งว่าการใหญ่จักสำเร็จในวันข้างหน้า..
          ที่สำคัญก็คือ ซุนเซ็กกับจิวยี่เป็น"คู่เขย"เมื่อ ทั้งคู่แต่งงานกับนาง 2 เกี้ยวแห่งเมืองกังตั๋ง โดยซุนเซ็กแต่งกับไต้เกี้ยว ผู้เป็นพี่ ขณะที่เสียวเกี้ยว น้องสาวก็ตกแต่งเป็นภรรยาของจิวยี่
          2 สาวนี่แหละที่"ขงเบ้ง"รู้ว่าเป็น"จุดอ่อน"จนสามารถชักยูงให้จิวยี่โน้มน้าวซุนกวนร่วมมือเล่าปี่รบโจโฉ..
          รบครั้งสำคัญครั้งนั้นก็คือ สงครามยุทธนาวีที่หน้าผาเซ็กเพ็ก ลุ่มน้ำแยงซีเกียง ที่รู้จักกันในชื่อ"โจโฉแตกทัพเรือ" ซึ่งว่ากันว่า กองทีพโจโฉยกทัพมารับล้านคน โดยเป็นกองเรือยาวถึง 300 ลี้ หรือ 156 กม.
          "ซุนเซ็ก"เป็นคนแรกที่รู้ดีว่า"จิวยี่"มีความสามารถมาก !!
          เพราะความเก่งนั้น ทำให้เมื่อใกล้จะตาย ซุนเซ็กจึง"ห่วง"บวก"วิตก"ว่าจิวยี่จะคิดการณ์ใหญ่
          ตอนซุนเซ็กตาย ได้แต่บ่น..."น้อยใจจิวยี่ไม่อยู่ด้วย มิได้สั่งความไว้ต่อปาก"
        จากนั้น เจ้าหมีน้อยบอกนางไต้เกี้ยว.."เจ้าจงบอกแก่น้องสาวของเจ้าซึ่งเป็นภรรยาจิวยี่ให่ว่ากล่าวเอาใจจิวยี่ให้ช่วยทำนุยำรุงซุนกวน อนึ่งให้จิวยี่คิดถึงไมตรีต่อเรา"
          จากนั้นก็สั่งเสียกับซุนกวน-น้องชายที่ขึ้นรับราชบัลลังค์ต่อ ..."การสงครามนั้นขัดสนประการใดก็ให้คิดอ่านกับจิวยี่เถิด"
          โชคดีที่จิงยี่ยังควบม้าตู่ใจมาทันดูในซุนเซ็ก...พร้อมสาบานต่อหน้าศพ..
          "ข้าพเจ้าจะช่วยทำนุบำรุงซุนกวนไปตามสติปัญญาโดยสุจริตจนกว่าจะสิ้นชีวิต" และเจ้าเสือสำอางก็รักษาคำมั่นจนตัวตาย ...
          แม้"ภาพ"ของจิวยี่ จะเป็น"คู่ปรับ"ของขงเบ้ง..
          แต่มีเรื่องกล่าวกันว่าขงเบ้งเป็นหนึ่งในผู้ที่นับถือจิวยี่อย่างจริงใจ..แม้กระทั่งตอนตาย
          น่าเสียดายที่"สามก๊กฉบับหอสมุด" เขียนถึงตอนนี้"สั้นๆ"ไว้เพียง.."ขงเบ้งครั้งไปถึงศพจิวยี่ก็เซ่นวัดกตามธรรมเนียมนิยมแล้วทำเศร้าโศกร้องไห้เป็นอันมาก"
          แต่ในฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งบรีวิตต์ เทย์เลอร์ (C.H.Brewitt Taylor) ชาวอังกฤษที่เป็นเจ้าหน้าที่กงศุลจีน และเป็นบัณฑิตอักษรศาสตร์ภาษาจีน ได้เขียนถึงตอนที่ขงเบ้งไปเคารพศพจิวยี่ ..และมีนายทหารจิวยี่หลายคนรอฆ่าคนที่ทำให้"นาย"เสียชีวิต
"อนิจจา กุงจิ้น!
          ท่านช่างเผอิญอายุสั้นเสียนี่กระไร ความยืนยาวของวันชีวิตอยู่ในเอื้อพระหัตถ์ของะพระผู้เป็นเจ้า แต่มนุษย์เราก็ยังต้องรับทุกข์ทรมานหัวใจ ข้าพเจ้าจึงโศกเศร้าถึงท่านอย่าลึกซึ้ง ข้าพเจ้าหลั่งเมรัยสักการะแด่นท่าน ณ ยามนี้แล้ว เพื่อว่าดวงวิญญาณของท่านจักได้ลิ้มรสความหอมแห่งเมรัย"

          จากนั้น...ขงเบ้งก็"ร่ายยาว"ถึงความอาจหาญของจิวยี่ ...
         
"อนิจจา ปิยสหาย!
          คนอยู่กับคนตายย่อมจักต้องแยกกัน จะอยู่ร่วมกันมิได้ ถ้าในห้วงอันมืดโพ้น วิญญาณทั้งหลายจะมีทางเข้าใจได้แล้ว ท่านก็จะอ่านความจริงใจของข้าพเจ้า ณ บัดนี้ออก ส่วนในภพนี้ จะไม่มีมนุษย์ผู้ใดเข้าใจได้เลย
อนิจจา...ช่างปวดร้าวเสียนี่กระไร.."
"โจโฉแตกทัพเรือ"
          เพราะคำกล่าวยกย่องอย่างจริงใจนี่แหละ ทำให้ขงเบ้ง"รอดตาย"...และเป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่า"เสือสำอาง" คือชายชาตินักรบคนหนึ่ง..ไม่ใช่คนเจ้าอารมณ์ขี้อิจฉา
          ใครที่ชม"โจโฉแตกทัพเรือ" ..จึงควรเข้าใจว่าทำไมในภาพยนตร์ จิวยี่จึงดูเก่งกล้ากว่าที่เราเคยรู้จัก
          เพราะนั่นคือ"จิวยี่"ที่จอห์น วู นำมาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษชื่อ Chronicles of the Three Kingdoms และภาษาจีน จึงต่างจาก"ภาพ"ที่คนไทยคุ้นเคยจาก"สามก๊ก"ฉบับหอสมุดแห่งชาติ
          นี่คือ จิวยี่..เจ้าเสือสำอางแห่งสามก๊ก !!!



Source : https://board.postjung.com/678927.html


No comments:

Post a Comment